(13 – 15 เมษายน 2558)

จัดกันเป็นประจำทุกปี กับถนนข้าวสาร ร่วมสนุกสนานเรงร่าอย่างมีสีสัน กับการเล่นน้ำสงกรานต์ ถนนที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาววัยรุ่น ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมสนุกและคลายร้อนกันอย่างคึกคัก
2. เทศกาลวันสงกรานต์ชุมชนมอญสังขละบุรี , กาญจนบุรี
(13 – 18 เมษายน 2558)

สัมผัสกับประเพณีสงกรานต์อันงดงามของชาวมอญ ในช่วงเช้ามีการทำบุญใส่บาตร โดยจะเห็นภาพชาวมอญที่เดินทูนถาดอาหารไว้บนศีรษะเพื่อนำไปถวายพระ ช่วงเย็นชมการขนน้ำไปอาบน้ำให้พ่อแม่ และผู้สูงอายุที่ไปถือศีลอยู่ประจำที่วัด และการขนทรายใส่ถุง หรือภาชนะเทินไปบนศีรษะ เพื่อนำไปก่อพระเจดีย์ทรายที่ลานหน้าเจดีย์พุทธคยา โดยในวันสรงน้ำพระ ชมการสรงน้ำพระตามแบบประเพณีของชาวมอญ ซึ่งเป็นการสรงน้ำผ่านรางกระบอกไม้ไผ่ที่นำมามัดรวมต่อๆกัน เมื่อถึงเวลาสรงน้ำพระในพิธี ชาวบ้านผู้ชายจะพร้อมใจกันนอนเรียงต่อ ๆ กันเป็นสะพานมนุษย์ เพื่อให้พระเถระเดินย่ำไปบนหลังจนถึงบริเวณที่นั่งสรงน้ำ และหลังจากสรงน้ำเสร็จ ชาวบ้านผู้ชายก็จะช่วยกันอุ้มพระไปส่งที่บันได สำหรับในช่วงเช้าวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของ เทศกาลสงกรานต์ ยังมีพิธีแห่กองผ้าป่า และพิธียกฉัตรเจดีย์ทราย ความยาวนับกิโลเมตร ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ชมอีกด้วย
3. ประเพณีสงกรานต์กรุงเก่า , พระนครศรีอยุธยา
(13 – 15 เมษายน 2558)

ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ในอุทยานประวัติศาสตร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก เป็นสงกรานต์แห่งเดียวในโลก ที่นักท่องเที่ยวได้ร่วมเล่นน้ำร่วมกับช้าง (นักท่องเที่ยวสามารถมาเล่นน้ำกับช้าง ณ บริเวณด้านหน้าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา) กิจกรรมหลัก คือทำบุญตักบาตรหน้าวิหารพระมงคลบพิตร และสรงน้ำพระพุทธรูปและพระนเรศวรมหาราช
4. ประเพณีป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง , เชียงใหม่
(12 – 16 เมษายน 2558)

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือ ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง วันสงกรานต์ล้านนาในภาคเหนือ หรือที่เรียกว่า “ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือ ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” เริ่มโดยในวันที่ 13 เมษายน เรียกว่า “วันสังขานต์ล่อง” วันนี้ถือเป็นวันสิ้นสุดศักราชเก่าของชาวภาคเหนือ ซึ่งจะมีการจุดประทัดในช่วงเช้า เพราะมีความเชื่อแต่โบราณว่า เป็นการขับไล่สิ่งเลวร้ายในปีก่อนให้พ้นไป และในช่วงเย็นจะมีงานบุญขนาดใหญ่ นั่นคือการแห่พระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองด้วย ในช่วงนี้จะมีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ มารวมตัวกันอย่างหนาแน่นเพื่อร่วมชมที่ได้ทั้งบุญและความสนุกสนาน จากนั้นในวันที่ 14 เมษายน ที่เรียกกันว่า “วันเนา” หรือ “วันเน่า” จะเป็นวันที่ห้ามด่าทอ ว่าร้ายผู้อื่น ไม่เช่นนั้นจะทำให้โชคร้ายไปตลอดทั้งปี ส่วนในวันที่ 15 เมษายน “วันพญาวัน” หรือ “วันเถลิงศก” เป็นวันที่ชาวบ้านไปทำบุญตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม จากนั้นจะมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในช่วงบ่าย พอถึงวันที่วันที่ 16 เมษายน “วันปากปี” ทุกคนก็จะพากันไปรดน้ำเจ้าอาวาสตามวัดต่าง ๆ และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอขมา โดยในวันที่ 17 เมษายน “วันปากเดือน” ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ ชาวบ้านจะทำการปัดตัว เพื่อส่งเคราะห์ต่าง ๆ ออกไป อันเป็นประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะทางภาคเหนือ หรือแผ่นดินล้านนาเท่านั้น
5. งานมหาสงกรานต์อีสาน – หนองคาย
(6 – 18 เมษายน 2558)

เป็นรูปแบบสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่ ที่ผู้ร่วมงานสามารถร่วมแรงศรัทธาสรงน้ำพระหลวงพ่อพระใส พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดหนองคาย โดยขบวนแห่หลวงพ่อพระใสที่ยิ่งใหญ่และแห่ทั่วเมืองหนองคาย นั้นจะปฏิบัติเพียงปีละหนึ่งครั้ง เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวไทย-ชาวลาวได้ร่วมสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตน เองในเทศกาลสงกรานต์
ที่มา: http://travel.mthai.com/blog/112166.html
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น