
พบศพนายธรรมสรณ์รุจิรวัฒนาภรณ์อายุ35ปีอาชีพทนายความประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ และอาจารย์สอนพิเศษวิชาด้านกฏหมายที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ นอนเสียชีวิตคากองเพลิงในห้องเก็บของ และพบศพเด็กชายบรรณวัฒน์ รุจิวัฒนาภรณ์ อายุ 8 ขวบ บุตรชายของนายธรรมสรณ์ นอนเสียชีวิตอยู่บนกระโปรงรถยนต์เก๋ง สภาพศพสองพ่อลูกทั้งคู่อยู่ในลักษณะถูกไฟเผาไหม้เกรียม เป็นที่น่าเวทนาต่อผู้พบเห็นอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรถยนต์จำนวน2คันเป็นรถยนต์เก๋งป้ายแดง ยี่ห้อฟอร์ดถูกเผาไหม้ไปพร้อมกับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า รวมถึงรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ชอปเปอร์และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า
จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังนี้อาศัยอยู่ด้วยกันจำนวน 6 คน ประกอบด้วยคุณย่า นายธรรมสรณ์พร้อมด้วยเมียและลูก 2 คน รวมทั้งพี่สาวด้วย ช่วงเกิดเหตุชาวบ้านพบเห็นเพลิงลุกไหม้บ้านไม้สักทองที่บริเวณด้านบนของตัว บ้านก่อน จึงร้องตะโกนปลุกให้คนในบ้านตื่นขึ้นมา ทุกคนตื่นและลุกออกมาอยู่นอกบ้านที่เกิดเพลิงไหม้กันหมดทุกคน

ยกเว้นเด็กชายบรรณวัฒน์เมื่อสอบถามทราบว่านอนอยู่ในห้องส่วนตัวนายธรรมสรณ์ ซึ่งเป็นพ่อจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปที่บ้านซึ่งเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างหนัก เนื้อไม้สักทองเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีในการทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและ ได้วิ่งฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปเพื่อจะช่วยลูกชายที่ห้องนอน ปรากฏไฟได้ลุกโหมไหม้ห้องนอนลูกชาย รวมถึงพื้นที่ห้องใกล้เคียง เป็นเหตุให้ลูกชายเสียชีวิตคากองเพลิง ภายในห้องนอน ศพได้ร่วงหล่นตกลงมากองอยู่บนกระโปรงรถซึ่งจอดอยู่ใต้ถุนบ้าน รวมถึงนายธรรมสรณ์ผู้เป็นพ่อด้วย ศพได้ตกร่วงหล่นลงมากองอยู่ภายในห้องเก็บของชั้นล่างด้วยเช่นกัน และไฟได้ลุกไหม้เผาเรือนไม้สักทองหรูทั้งหลังจนหมดสิ้น รวมมูลค่าทรัพยสินที่เสียหายกว่า 15 ล้านบาท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการสอบสวน

พ.ต.อ.ประทีปกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพนายธรรมสรณ์พร้อมลูกชาย ไปทำการผ่าพิสูจน์ศพที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงจากเหตุเพลิงไหม้
ทางเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ยังไม่สามารถเข้าถึงจุดพื้นที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากมีซากปรักหักพัง ซึ่งเกิดจากเพลิงไหม้ โดยเฉพาะหลังคาที่ใช้มุงบ้าน รวมถึงท่อนไม้สักที่ถูกเผาไหม้และล้มทับกันอยู่ ยังไม่ได้เคลียร์ออก คงต้องรอให้มีการเคลียร์ซากปรักหักพังทั้งหมดออก เพื่อเข้าตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงภายในพื้นที่

สำหรับการสอบปากคำบุคคลภายในบ้านช่วงนี้อยู่ระหว่างการเศร้าโศกเสียใจของ ญาติ คงต้องรอเวลาสักระยะหนึ่ง และคาดว่าจะสามารถสอบปากคำบุคคลภายในบ้านทุกคน พร้อมเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้ คาดว่าจะสามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ภายในวันจันทร์นี้
ที่มา : http://www.khaosod.co.th
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น