ล่าสุด ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าตนไม่สามารถฟันธงได้ว่าพระรูป ดังกล่าวเล่นกลหลอกลวงหรือมีคุณวิเศษจริง แต่อยากให้ลองเอาเทอร์โมมิเตอร์ไปตรวจสอบความร้อนจะได้รู้ๆกันไป พร้อมกับตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อผิดปกติของการแสดงปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ ด้วย

ขณะเดียวกันก็ทรงบัญญัติไม่ให้ภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม คือคุณวิเศษหรือการบรรลุธรรมอย่างสูงที่เกินปกติของมนุษย์สามัญ เช่น สมาธิ ฌาน สมาบัติ มรรคผล ถ้าอวดโดยที่ตนไม่มีคุณวิเศษนั้นจริง คือ หลอกเค้า ย่อมต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ
ในกรณีของการ นั่งกระทะตั้งไฟ ดังภาพ เราก็คงไม่อาจจะไปปรักปรำฟันธงได้ทันที ว่าท่านนั้นเล่นกลหลอกลวง (อาบัติปาราชิก ถึงขั้นสึก) หรือท่านมีคุณวิเศษในตนจริง (ซึ่งก็อาบัติปาจิตตีย์อยู่ดี)
แต่วิธีพิสูจน์ที่ท่านทำได้ คือ การใช้เทอร์โมมิเตอร์ วัดอุณหภูมิให้ดูกันจะๆ ว่าน้ำมันที่นั่งนั้นร้อนขนาดไหนกันแน่ … เพราะน่าแปลกที่ถึงท่านจะนั่งจมในน้ำมัน (ไม่คล้ายกับฤาษีบางตนที่นั่งบนแท่น) แต่น้ำมันนั้นกลับดูไม่เดือด ไม่มีไอขึ้น ทั้งที่ไฟก็จุดแรง กระทะก็ดูหน้าตาแปลกๆ หรือจะทำไว้เป็นสองชั้นกันความร้อนได้ แต่เน้นอีกครั้ง “ภิกษุแสดงอิทธิปาฏิหาริย์แก่ชาวบ้าน ภิกษุนั้นมีความผิด ต้องอาบัติทุกกฎ”
ที่มา : http://news.mthai.com/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น